Thursday, March 21, 2019

ผิวดีเพราะ 5 เรียนรู้ เข้าใจผิว เข้าใจผลิตภัณฑ์ เข้าใจเวลา เข้าใจร่างกาย เข้าใจสภาพแวดล้อม | EP 1 S-ERUM ครีมพอก กับ ครีมเคาเตอร์แบรนด์ ?


EP 1 (แปลว่ามีอีกหลายตอน)

S-ERUM เวชสำอางค์ที่มีอายุยาวนานกว่า 21 ปี หาซื้อยาก และ ใช้ยากด้วย 😅 เพราะ S-ERUM มีการปรุงตำรับสูตร โดยวางอยู่บนพื้นฐานว่า ผู้ใช้มีความเข้าใจที่ดีมากพอ

เอาหละ , วันนี้ผมจะมาสะสาง ความไม่เข้าใจหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับ S-ERUM ครีมน้ำนมพอกหน้า ที่ผู้ใช้ มีเสียงตอบรับกลับมา หลากหลาย

เช่น


  • ใช้ดีนะ แต่พอใช้ไปเข้าเดือนที่ 3 ทำไมเฉย ๆ
  • ตอนแรกก็ใช้ดีนะ แต่สักพักเหมือนหน้าจะหมองลง
  • ใช้แล้ว .. ไม่เห็นได้ผลอะไรเลย
  • ใช้ดี ใช้มาเป็น 10 ปี ก็ดีเริดทุกครั้งนะ 
  • หยุดใช้ไปนานหลายปี กลับมาใช้อีกที อุ้ย มันดีงามเหมือนเดิม

เออ ดูสิ ผลิตภัณฑ์เดียวกัน แต่ผลลัพธ์แต่ละคนออกมาไม่เหมือนกัน
😂




แล้วเสียงตอบรับจากคนที่ยังไม่เคยใช้เลย ก็มีนะ ส่งมาในไลน์บ้าง แฟนเพจบ้าง รวมถึง ไปโพสต์ถามกันในกระทู้เว็บบอร์ดบ้าง

เช่น


  • ใส่ปรอทใช่ไหมอะพี่ ทำไมมันจะขาวใสในคืนเดียว
  • ครีมอะไรอะ ยี่ห้อก็ไม่เคยได้ยิน ได้เห็น ไม่มีโฆษณา
  • ทำไมแพงเวอร์วัง จะได้ผลเหรอ
  • หลอกขาย ครีมกวนถัง ใช้แล้วหน้าพัง

ผู้เขียนก็เป็นงง .. แกไม่เคยใช้ แกรู้ไปถึงตอนจบได้ไงเนี่ย
😆



ความจริงของโลกใบนี้ คือ มันมีครีมดีดีอยู่เยอะแยะหละครับ มีเป็นหมื่น ๆ แบรนด์เลยหละ บอกเลย ขอให้ผลิตถูกต้อง ไม่หมดอายุ มันดีหมดหละครับ

บางตำรับมีส่วนผสมหลัก ๆ แค่เบสโลชัน + ลาโนลิน + น้ำมันงา + กลีเซอรลีน + สารกันเสีย ไม่ใส่น้ำหอม

หืม .. ต้นทุนไม่กี่ร้อย แต่ขายกันหลักพัน และผิวก็ดีขึ้นจริงด้วยนะ ที่มันแพง ก็เพราะ "ตำรับเด็ด" ในการจับหาสัดส่วนเฉพาะมาปรุงนั่นหละครับ



แต่กระนั้น ,

ถ้าสังเกตจะพบว่า "เคาเตอร์แบรนด์ดัง" ที่คนไทยยอมรับว่า มันเชื่อถือได้ เพราะมีการลงทุนเปิดเคาเตอร์ , มีโฆษณา , มี BA แนะนำ มี มี มี บลา ๆ ๆ ๆ

แพงแค่ไหน ก็ซื้อได้ เพราะ .. มันเชื่อได้ ก็เขามีโฆษณาไง เออ ก็จริงเนาะ

แต่ขนาดแพงแบบนั้น น่าเชื่อถือแบบนั้น ก็ยังมีเสียงตอบรับมาเยอะว่า


  • ใช้ดีนะ แต่พอใช้ไปเรื่อย ๆ ทำไมผิวเฉย ๆ
  • ตอนแรกก็ใช้ดีนะ แต่สักพักผิวมันเยิ้มเลยค่ะ
  • ใช้แล้ว .. ไม่เห็นได้ผลอะไรเลย
  • สิวระเบิดเลยค๊า แพ้ด้วยคัน แสบไปหมด

น่าคิดไหมหละ ?

ถ้าน่าคิด เดี๋ยวเรามาติดตามกันตอนหน้า EP 2 เนาะ เพราะเรารู้ว่า เวลามีค่า อ่านยาว ๆ มันเสียเวลา
😝 ผู้เขียนก็เหนื่อย .. ฮ่า ๆ 

แล้วเจอกันตอนหน้าครับ ไปโบกครีมพอก แล้วนอนดู Marvel พรุ่งนี้จะได้เอาผิวสวย ๆ ไปอวดชาวแม่ค้าในตลาดสด

บัยยยยย นะจ๊ะ



 ไม่ต้องซื้อก็ได้ .. แค่เข้าใจเราก็พอ


Monday, March 18, 2019

วิชาการเรียนรู้เรื่องกระฝ้า ตอนที่ 3 : ต้องทายารักษาฝ้า กระ ไปตลอดชีวิตหรือไม่ ?

ตอนที่แล้วเราทำความเข้าใจกันแล้วว่า ยารักษาฝ้ามีกี่ประเภท และ แต่ละสารมีผลดีและผลข้างเคียงอย่างไร

ฝ้า กระ ต้องทา ต้องพอก ดูแลผิวกันสม่ำเสมอไปตลอดชีวิตครับ



ตอนที่ 3 ผมจะชวนมาทำความเข้าใจว่า ต้องทายารักษาฝ้าไปตลอดชีวิตหรือไม่ ? ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจคลาดเคลื่อน

อ่านตอนที่ 1
วิชาการเรียนรู้เรื่องกระฝ้า ตอนที่ 1 : ทบทวนข้อเท็จจริงพื้นฐานเกี่ยวกับกระฝ้า

อ่านตอนที่ 2
วิชาการเรียนรู้เรื่องกระฝ้า ตอนที่ 2 : เข้าใจยารักษาฝ้า


เราจะต้องทายารักษาฝ้าไปตลอดชีวิตเลยเหรอ ?

ไม่จำเป็นต้องทายารักษาฝ้าไปตลอดชีวิตครับ แต่จำเป็นต้องทาเครื่องสำอางค์ที่มีสารควบคุมกลไกการเกิดฝ้าไปตลอดชีวิต (ท่องไว้ครับ ยา และ เครื่องสำอางค์ ไม่เหมือนกัน)


ทำไม ?
ยังต้องทาเครื่องสำอางค์ที่มีสารควบคุมกลไกการเกิดฝ้าต่อไปหละ ?

ก็ฝ้าเป็นแล้วไม่หายไงครับ !!

เมื่อชัดเจนว่าไม่หาย ก็แปลว่า เขายังดำรงอยู่กับเรา แต่ที่ดูว่าจางหายไปนั้น เพราะเขาโดนควบคุมกลไกการกระจายตัว โดยสารต่าง ๆ ที่เราทาลงไป (รวมถึงวิธีการหัตการในคลีนิคผิวหนัง)

เปรียบเสมือน โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง กินยา รับคีโม ต่อเนื่องแล้วก็อาจหายขาดไปได้ แต่ถ้าเผลอใช้ชีวิตเหมือนเดิม ก็สามารถกลับมาเป็นเบาหวาน เป็นมะเร็งได้ และ อาจเป็นหนักกว่าเดิมด้วย

ฝ้าก็เช่นเดียวกันครับ !!

รักษาด้วยยาหายแล้ว แต่ไม่ทาเครื่องสำอางค์ที่มีสารควบคุมเขา แล้วยังกลับไปเริงร่าท้าแดด ส่องจอมือถือใกล้ ๆ หน้า

กลไกฝ้าจะกลับมาทำงาน และ แพร่กระจายตัว (มีพื้นที่กว้างขึ้น) และ มีจำนวนมากขึ้น (สีเข้มขึ้น)


เดี๋ยว ๆ !!
เครื่องสำอางค์ที่มีสารรักษาฝ้า จะทำให้ผิวบางไหม หน้าจะแพ้ง่ายไหม ?

ก็ขึ้นกับผู้ผลิตหละครับทีนี้ว่าจะใช้สารอะไรมาใส่ และ ใส่ความเข้มข้นขนาดไหน และ "จะปรุงตำรับใด" ออกมา

สารตัวเดียวกัน แต่คนละแบรนด์ กลับให้ผลไม่เท่ากัน ก็เพราะ "ตำรับการปรุง" ในห้องแลปส์นี่แหละครับ

อาหารก็เช่นกัน !! วัตถุดิบเดียวกัน แต่เชฟต่างกัน ก็มี "ปลายจวัก" (รสมือ) ต่างกันนะครับ

ดังนั้น ผู้บริโภคต้องพยายามมีความรู้ให้มาก  ๆ เข้าไว้ครับ



จะหลอกขายของให้ซื้อใช้ไปตลอดหละสิ !!

ไม่ได้หลอกครับ เพราะคนเราต้องกินข้าวทุกวัน วันละ 3 มื้อ น้ำอีก 8-10 แก้วทุกวัน ลองไม่กินข้าว กินน้ำ สัก 3-5 วันดูครับ ดูซูบ โทรม หมอง แห้ง เหี่ยว ใช่ไหมครับ

ผิวก็เช่นกัน เพราะผิวหนังเป็นอวัยวะที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายเรา ต้องการสารอาหารในการสร้างชั้นผิวหนังใหม่ทุกวันนะครับ

โชคดีที่ผิวหนังเป็นอวัยวะที่สามารถดูดซึมอาหารผิวจากภายนอกได้

การทาครีมจึงได้ผลกับผิวชั้นนอกได้เป็นอย่างดีครับ จึงเป็นการให้อาหารผิว เหมือนที่เราต้องกินข้าวทุกวันนั่นแหละครับ


อาหารมีหลายแบบ จานเดียว ฟาสฟูดส์ ชีวจิต อาหารผิวก็เหมือนกันนะครับ


อาหารจานเดียว
กระชวกซีอิ้ว น้ำปลา ผงปรุงรส ใส่
ก็กินได้อร่อย แต่ไตพัง สังขารร่วง

ฟาสต์ฟูดส์
แป้งแปรรูป ไขมันทรานส์ สารแต่งกลิ่น
ก็กินได้สะดวกดี อ้วนพลี มีพุง

ชีวจิต
อาหารคุณภาพชั้นดี กินเพื่อสุขภาพ ..
แต่กินยาก ไม่อร่อยลิ้น


แล้วมันเกี่ยวกันยังไง !!

ผมอยากให้เลือก "อาหารคุณภาพ" อาหารที่กินแล้วดีกับร่างกายแบบอาหารชีวจิต อาหารคลีนแบบนั้น ให้กับผิวเราบ้างครับ

ลงทุนให้ร่างกายได้ ก็ลงทุนให้ผิวด้วยครับ

ไม่ใช่เอะอะ ก็อาหารจานเดียว อาหารจานด่วน เพราะเครื่องสำอางค์จำนวนมาก สวยเร็วเร่งได้ แบบอาหารจานเดียว อาหารจานด่วน นั่นหละครับ

แพคเกจสวย ซีรีย์เยอะ สาขาแยะ ทำง่าย และอาจตายง่ายด้วย สารจากสารพัดสัตว์ จากแร่ธาตุ สุดแท้แต่จะสรรหาจาก สูงสุดบนท้องฟ้า (โอโซน) งมลงมาหาจนถึงท้องทะเลลึก (ปลาดาว ปลาวาฬ ขี้ปลาไหล)

นี่ถ้าแหวกไปทำการตลาดลงไปใจกลางโลกได้ ต่อไปเราคงเห็น สารสกัดจากแมกม่า แกนกลางแม่เหล็กโลก ผสมขายในเครื่องสำอางค์ได้แน่ ๆ

คือ ท่าไม่ยาก ทาไม่เยอะ ขวดเดียว เสียวครบทุกจักรวาล อาจหน้าพัง เซลล์ผิวหนังร่วงราและอ่อนแอได้ เมื่อใช้นาน ๆ


ดังนั้น เลือกลงทุนอาหารผิว ที่เป็นอาหารผิวจริง ๆ ไม่ใช่อาหารแค่อิ่มท้องเถอะนะครับ







S-ERUM ผลิตภัณฑ์เซรัมคุณภาพสูงจำหน่ายมานานกว่า 20 ปี


S-ERUM CAE เซรัมอาหารผิว
 คือ เวชสำอางค์สูตรเอกสิทธิ์จากสหรัฐอเมริกา 
ที่ใช้สารทดแทนไฮโดรควิโนนหลากหลายชนิด ร่วมกับ สารสำคัญจากรากดอกไม้ซิโฟเนียสายพันธุ์เยอรมัน (กลุ่มพืชพุ่มเตี้ย) และ น้ำมันกีวีสกัดเข้มข้น (เพื่อใช้ละลายอนุพันธ์ของสารสำคัญ)

โดยพุ่งเป้าไปที่การใช้สารสกัดธรรมชาติจำนวนมากที่เข้มข้นในระดับพอดีในรูปเซรัมแบบครีม เพื่อลดกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว อย่างปลอดภัย

เมื่อใช้ CAE ครีมรากไม้อย่างถูกต้อง ในปริมาณที่เหมาะสม และ ต่อเนื่อง 2-4 สัปดาห์ จะพบความแตกต่างของสีผิวระหว่าง "ก่อนใช้ " และ "หลังใช้" ได้ชัดเจนครับ

ทำความรู้จักผลิตภัณฑ์นี้เพิ่มเติม
https://www.serumchiangmai.com/s-erum-super-whitening-performance-cae.php


แฟนเพจทางการ (Official)
facebook.com/serumchiangmai



Line id : serumchaingmai (สำหรับโทรไลน์เพื่อปรึกษาผิวพรรณ)


Line id : @naitam (สั่งซื้อและรับโปรโมชัน)


โทร. 02-1073396 และ 052-081830